เรื่องที่ไม่เคยบอก เล่าเรื่องยังไงให้เป็นไวรัล(Viral)

เรื่องที่ไม่เคยบอก เล่าเรื่องยังไงให้เป็นไวรัล(Viral)

เรื่องที่ไม่เคยบอก เล่าเรื่องยังไงให้เป็นไวรัล(Viral)

ในโลกยุคดิจิตอล กลยุทธ์ทางการตลาดที่ถือได้ว่ามีความแปลกใหม่ แหวกแนว และไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เป็นการตลาดที่เรียกได้ว่ามีความบ้าระห่ำ กำลังแพร่ระบาดออกสู่ผู้คนทั่วโลก ผ่าน Social media อย่างรวดเร็วราวกับเชื้อไวรัส การตลาด หรือปรากฏการณ์แบบนี้เราเรียกว่า Viral Phenomena ก็คือ การมีสิ่งที่เข้าไปกระตุ้นหรือทำการปลุกเร้ากระแสต่าง ๆ ในโลกของสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดการตื่นตัวและมีการกล่าวถึงในวงกว้าง

เรื่องที่เป็นไวรัลนั้นเป็นได้ทั้งเรื่องราวด้านบวก และเป็นได้ทั้งเรื่องราวในด้านลบ เป็นการสร้างกระแสที่ส่งผลกระทบต่อผู้คน ทำให้เกิดการพูดถึงและบอกต่อ ๆ กันไป เป็นผลทำให้เรื่องราวนั้น ๆ เกิดการแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้หลักการที่ว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้บริโภคเห็นแล้วรู้สึกว่ากระทบจิตใจ มีความแปลก เห็นแล้วรู้สึกตกใจ เพื่อเป็นการเข้าถึงความรู้สึกในด้านใดด้านหนึ่งของผู้บริโภค

เมื่อสามารถเข้าถึงความรู้สึกของผู้บริโภคได้ไม่ว่าจะเป็นในด้านใดก็ตาม สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามก็คือกระแสการบอกเล่า การบอกต่อ ๆ กันไปแบบปากต่อปากได้อย่างรวดเร็ว

นั่นก็หมายความว่า ไม่ว่าใคร หรือบริษัทใด สามารถทำโฆษณาออกมาได้แหวกแนว แปลกใหม่ น่าตื่นเต้นตกใจ มีผลกระทบต่อความรู้สึกในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะใช้วิธีการในแง่บวกหรือแง่ลบ หากส่งโฆษณานั้นให้กระทบเข้าถึงความรู้สึกของผู้บริโภคได้ จะเกิดปรากฏการณ์บอกต่อหรือแนะนำกันปากต่อปากไปเรื่อย ๆ ให้มีการแพร่ระบาดเหมือนเชื้อไวรัส จากหลักสิบ หลักร้อย จนไปถึงหลักล้านและหลาย ๆ ล้าน

โดยในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมานั้นก็ได้มีกระแสไวรัลออกมาให้เห็นในโลกออนไลน์กันมากขึ้น เพราะเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างกระแสไวรัล นั่นก็คือ Social media ต่าง ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเว็บไซต์ Youtube และ Facebook ที่ได้มีการปล่อยไวรัลวีดีโอออกมากันอย่างมากมาย โดยอาศัยธรรมชาติหรือพฤติกรรมของสังคมออนไลน์ ที่เมื่อมีความถูกใจ ชอบใจวีดีโอ หรือข้อความใด ๆ ก็จะมีการกด Like และ Share สิ่งนั้น ๆ ออกไปสู่โลก Social จนทำให้เกิดการแพร่กระจายของสื่อหรือโฆษณานั้น ๆ ให้เป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็วเมื่อต้นทุนในการซื้อโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์ ทางทีวี หรือทางเว็บไซต์นั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูง การตลาดแบบ Viral marketing นั้นจะช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปได้อีกมาก

เราไม่จำเป็นต้องไปซื้อพื้นที่หรือเวลาเพื่อลงโฆษณาในราคาแพง เพียงแค่อาศัยการบอกต่อของบรรดาแฟนคลับที่ชื่นชมในตัวสินค้า หรือคอยติดตามความเคลื่อนไหวของเราอยู่แล้ว ในการทำให้เกิดกระแสไวรัลแทนนั่นเอง

หากวีดีโอโฆษณาที่ลงไปนั้นได้รับการตอบกลับที่ดี มีการแชร์ต่อ ๆ กันไปทั่วโลก แน่นอนว่าสินค้าของเราต้องขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยที่ไม่ต้องเปลืองเงินเพื่อซื้อพื้นที่โฆษณาเลยล่ะค่ะ

แต่ใช่ว่าการใช้กลยุทธ์แบบ Viral marketing นั้นจะได้ผลสำเร็จที่ดีเสมอไป หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วนั้น พบว่าวีดีโอไวรัลนั้นประสบความสำเร็จน้อยมาก นั่นแสดงว่าการทำวีดีโอไวรัลนั้นไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จเป็นกระแสไปเสียทุกอัน
ยกตัวอย่างของปรากฏการณ์กระแสไวรัลที่ประสบความสำเร็จและพูดถึงกันในวงกว้าง ได้แก่ กรณีของ ALS Ice Bucket Challenge ซึ่งเป็นการทำไวรัลในด้านบวกบนโลกออนไลน์

แคมเปญนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในสังคมออนไลน์ มีผู้คนมากมาย ทั้งบุคคลมีชื่อเสียงต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลก รวมไปถึงบุคคลทั่วไป ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมและแชร์ส่งต่อกันไปเพื่อเป็นการระดมทุนต่อยอดให้กับงานวิจัยเกี่ยวกับผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง

โดยมียอดระดมทุนสูงมากถึง 220 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นผลทำให้ผู้คนทั่วโลก หันมาสนใจและรู้จักโรค ALS หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงกันมากขึ้น

อีกตัวอย่างของกระแสไวรัลที่มาแรงและประสบความสำเร็จแบบเหนือความคาดหมาย นั่นก็คือ “ชุดนี้สีน้ำเงินดำ หรือสีขาวทอง” เชื่อได้อย่างยิ่งว่าผู้ที่อยู่บนโลกออนไลน์ต้องเคยได้เห็นผ่านตากันมาแล้วแน่ ๆ ไวรัลชิ้นนี้

เพียงแค่โพสต์ภาพชุดเดรสของสตรีแล้วตั้งคำถามว่าชุดนี้เป็นสีน้ำเงินดำ หรือสีขาวทอง โดยใช้การหลอกสายตาโดยอาศัยความสามารถในการมองเห็นในที่มืดของมนุษย์ ผู้ที่มองเห็นได้ดีในที่มืด จะมองเห็นชุดเป็นสีน้ำเงินดำ และผู้ที่มองเห็นเป็นสีขาวทองคือผู้ที่สายตาปรับแสงในที่มืดได้ไม่ค่อยดีนั่นเอง

กระแสไวรัลของชุดนี้ ถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้โลกออนไลน์เกิดประเด็นถกเถียงกันอย่างแพร่หลาย และแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจุดประสงค์ของแคมเปญอันนี้ จะไม่ได้ออกมาเพื่อสนับสนุนแบรนด์ใด ๆ หรือเพื่อการค้าขายเลยก็ตาม แต่กลับได้รับการตอบรับที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ แสดงให้เห็นว่า การเกิดกระแสไวรัลนั้นในบางครั้งก็ไม่มีความแน่นอน ไม่สามารถคาดเดาหรือคาดคะเนทิศทางได้เลย อีกทั้งยังไม่มีการวางแผนใด ๆ เอาไว้ล่วงหน้าอีกด้วย

ดังนั้น การตลาดแบบ Viral Marketing นั้นจะไม่เหมือนการตลาดแบบ Content Marketing  ที่มีกระบวนการวางแผนงาน หาข้อมูลมาเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าการตลาดแบบ Viral Marketing นั้นจะมีผลตอบแทนที่น่าสนใจ และมีต้นทุนที่ต่ำมาก หากแต่ต้องระวังถึงเรื่องประเด็นทางสังคมและวัฒนธรรมเป็นอย่างมากอีกด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และกระทบต่อความรู้สึกได้โดยง่าย

ดังนั้น หากต้องการทำไวรัล เพื่อสร้างกระแสขึ้นมาสักชิ้นหนึ่ง ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดตามมาต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ หรือบริษัท เอาไว้ให้มาก เพราะถ้าหากพลาดแล้วล่ะก็ บริษัท สินค้า หรือแบรนด์นั้น ๆ ก็จะกลายเป็นได้รับผลตอบรับในแง่ลบ จนทำให้หมดความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ติดลบ ซึ่งการกอบกู้ชื่อเสียงให้กลับคืนมานั้นก็ทำได้ยากทีเดียวเลยล่ะค่ะ

Get A Quote

Add Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *